ไปเสม็ด เสร็จทุกราย จริงหรือ?

การเดินทางไปเกาะเสม็ด

เพราะอะไร เกาะเสม็ด จึงมักเป็นสถานที่แรกๆ ที่นักท่องเที่ยวมักจะคิดถึง

     อากาศร้อนแบบนี้ไปไหนกันดี?  ทะเล คือคำตอบสุดฮิต... แล้วจะไปไหนล่ะที่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ มากนัก  คำตอบที่ได้ส่วนใหญ่จะไปกันอยู่ไม่กี่แห่ง  ชายหาดบางแสน  พัทยา  หัวหิน  ชะอำ และเกาะเสม็ด ซึ่งเป็นเกาะที่ใกล้ชายฝั่งมากที่สุดไปสะดวกที่สุด และแทบจะสวยที่สุด  ผมเองก็ไปเที่ยวอยู่บ่อยๆ และตอนนี้เกาะเสม็ดได้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสิ้นคิดของผมไปโดยปริยาย  ประมาณว่า...ถ้าไม่รู้จะไปเที่ยวที่ไหนในวันหยุดก็ไปที่นี่แหละ

รูปปั้นพระอภัยมณี และนางเงือก สัญลักษณ์ของเกาะเสม็ด

     เกาะเสม็ด หรือ เกาะแก้วพิสดารในวรรณคดีเรื่องพระอภัยมณี ของท่านสุนทรภู่กวีเอกชาวไทยชื่อก้องโลกนั้น  อยู่ห่างจากชายฝั่งบ้านเพ จังหวัดระยอง เพียง 6.5 กิโลเมตร  มีเนื้อที่รวมประมาณ 3,125 ไร่  มีอ่าวน้อยใหญ่เป็นหาดทรายสวยงามอยู่รายรอบเกาะ   ซึ่งเป็นที่ตั้งของรีสอร์ทที่พักหลากหลายระดับราคา ให้นักท่องเที่ยวได้เลือกใช้บริการ

     การเดินทางไปเกาะเสม็ด  นั้นสะดวกสบายมาก  นักท่องเที่ยวสามารถเลือกโดยสารเรือจากท่าเรือบ้านเพ  ซึ่งมีบริการทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง  ค่าโดยสารระหว่างบ้านเพ-เกาะเสม็ด (เที่ยวเดียว 50 บาท/ท่าน) ใช้เวลาเดินเรือประมาณ 40 นาที  ท่าเรือหลักๆ ก็มีท่าเรือเพ,ท่าเรือนวลทิพย์ และท่าเรือโชคกฤษดา ส่วนเรือเร็วหรือสปีดโบ๊ทราคาอยู่ที่ท่านละประมาณ  250 บาท หรือเหมาลำก็ประมาณ 2,000 – 2,500 บาท

     บนเกาะเสม็ดมีถนนเพียงสายเดียวทอดตัวตั้งแต่ทิศตะวันออกไปถึงทิศตะวันตก  ในระหว่างทางมีแยกลงสู่อ่าวต่างๆ  สภาพถนนมีลักษณะเป็นถนนคอนกรีต  ถนนลูกรัง และถนนดิน  ขอแนะนำว่าถ้าเช่ารถมอเตอร์ไซต์ขับบนเกาะ ควรขับขี่ด้วยความระมัดระวัง เพราะถนนหนทางนั้นวิบากน่าดู  อาจเกิดอุบัติเหตุได้ง่าย  บนเกาะมีรถสองแถว(TAXI) คอยบริการไปตามหาดต่างๆ ค่าบริการตั้งแต่ 20-200 บาท ขึ้นอยู่กับระยะทาง หากต้องการจะเหมาเที่ยวทั้งเกาะราคาประมาณ 800 – 1,000 บาท

     บนเกาะเสม็ดมีอ่าวทั้งหมด 10 - 12 อ่าว  แต่ละอ่าวล้วนมีความสวยงามแตกต่างกันไป เช่น หาดทรายแก้ว  นักท่องเที่ยวเกือบทุกคนมักจะไม่พลาดการเดินทางไปชื่นชมความสวยงาม  ที่นี่มีจุดเด่นอยู่ที่ชายหาดที่ยาว มีทรายสีขาวละเอียด และมีสิ่งอำนวยความสะดวกอยู่อย่างครบครัน  ชาวต่างชาตินิยมมานอนอาบแดดเปลี่ยนสีผิว ชาวไทยนิยมลงไปเล่นน้ำทะเลโต้คลื่น หรือสนุกสนานกับเรือบานานาโบ๊ต

หาดทรายแก้ว เกาะเสม็ด

     ส่วนอ่าววงเดือน  อ่าวนี้ก็ฮิตติดอันดับความนิยม อ่าววงเดือนมีลักษณะคล้ายหาดทรายแก้ว แต่ทว่ามีความโค้งของส่วนที่เป็นชายหาด  บางคนบอกว่าลักษณะดังกล่าวนี้เป็นที่มาของชื่ออ่าววงเดือน  แต่ถ้าใครที่ต้องการความสงบ แบบอยากพักอยู่เงียบๆ ไม่ต้องการความอึกทึกมากนัก  ก็ควรเลือกที่พักแถวๆ อ่าวไผ่  อ่าวทับทิม  อ่าวช่อ  อ่าวลุงหวัง  หรือ อ่าวแสงเทียน  ในย่านนี้จะมีนักท่องเที่ยวไม่มากนัก ซึ่งอาจเป็นเพราะการเดินทางมานั้นจะต้องใช้บริการรถสองแถวจากท่าเรือมาส่งอีกต่อหนึ่ง  แต่ก็นับว่าคุ้มค่าเมื่อแลกกับความสงบที่ธรรมชาติได้รังสรรค์ไว้ให้อย่างบรรจง

     ลองเลือกพิจารณากันดูให้เหมาะสมกับความต้องการของตนเองนะครับ  เกาะเสม็ดยังมีที่พักสวยๆ อีกมากมายหลายระดับดาว  ถ้าคุณมีเงินพอจะจ่ายในราคาที่สูงขึ้น ลองหาข้อมูลที่พักในย่านอ่าวพร้าว  ณ อ่าวแห่งนี้มีความโรแมนติกสูง (พอๆ กับราคาที่พัก) เรียกได้ว่า หากพาคนรู้ใจไปด้วย คุณจะต้องประทับใจกันไปอีกนาน

     สิบปากว่าไม่เท่าตาเห็น สิบตาเห็นไม่เท่าได้ไปสัมผัสเองครับ  ทริปนี้ผมจึงเลือกพักที่อ่าวพร้าวนี่แหละ ไม่ได้ร่ำรวยมาจากไหนหรอกนะครับ แต่โชคดีที่ทางลีม่าโคโค่เขาให้มาพักในราคาพิเศษ  เลยทำให้มีโอกาสนั่งดูคู่โรแมนติกอยู่หลายคู่เหมือนกัน  เห็นแล้วก็นึกอิจฉา  นี่แหละน๊า...เราดันมาคนเดียว  จำไว้นะครับมาเที่ยวอ่าวพร้าวเกาะเสม็ด “อย่ามาคนเดียว”

     กิจกรรมสำหรับคนเหงา จะมีอะไรมากไปกว่าการลงไปเล่นน้ำ  ขึ้นมาบนชายหาดก็นั่งจิบเบียร์ มองคลื่นกระทบฝั่งเป็นประกายฟองไม่ต่างอะไรกับในแก้วข้างกาย  ทริปนี้ของผมก็เลยเกือบจบแบบมึนๆ ตั้งแต่พระอาทิตย์ยังไม่ตกลงไปในทะเลตรงหน้า 

อ่าววงเดือน เกาะเสม็ด

     น่าสนใจครับฤดูร้อนนี้ หากคุณไม่รู้จะไปคลายร้อนที่ไหน  เกาะเสม็ดนั้นมีอะไรมากกว่าที่คุณคิด การเดินทางก็แสนจะสะดวกสบาย ราคาที่พักมีตั้งแต่  600 บาท ไปจนถึงแพงสุดๆ เลือกพักตามฐานะ และความพึงพอใจกันได้เลย 

     และสุดท้ายนี้ มีคนชอบพูดติดปากกันเยอะมากว่า “ไปเสม็ด เสร็จทุกราย” จริงเท็จอย่างไร คุณหนุ่มคุณสาวระวังตัวกันไว้บ้างก็ดีนะครับ...ผมอิจฉา